วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีลงนาม MOU ระหว่าง "ราชทัณฑ์ - สภาทนายความ"


 ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย คำแนะนำคดีอาญา-แพ่ง-ปกครอง สร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ส่งเสริมความยุติธรรมแก่สังคม
(วันที่ 5 เมษายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องประชุม 10-09 (Auditorium) ชั้น 10 อาคารกระทรวงยุติธรรม ว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฯลฯ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ระหว่างนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กับ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีนางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการเรือนจำ หัวหน้าหน่วยงานของกรมราชทัณฑ์ และทัณฑสถานทั่วประเทศและจากสภาทนายความฯ ให้การต้อนรับ และร่วมเป็นสักขีพยาน
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ระหว่าง กรมราชทัณฑ์ กับ สภาทนายความฯ เพื่อการปกป้องคุ้มครองเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ แสดงถึงความพยายามของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต 
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า งานเรือนจำ เป็นงานที่มีความตรากตรำ ต้องปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่อาจสับเปลี่ยนหมุนเวียนในการควบคุมดูแลผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด รวมความยากกับงานการแก้ไขผู้ต้องขังให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี ซึ่งใน 1 ปี จะมีบุคคลต้องหมายขังจากคำสั่งศาล ปีละไม่ต่ำกว่า 800,000 คน ในจำนวนนี้กว่าหมื่นคนยังเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่หากขาดการรับประทานยา การรักษาที่ไม่ต่อเนื่องก็มีโอกาสทำร้ายเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อีกด้วย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงมีคติเตือนใจที่ว่า "ต้องรักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต" อีกทั้งอยากให้สภาทนายความฯ ขยายความช่วยเหลือไปยังครอบครัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจที่อาจส่งผลให้เจ้าหน้าทื่ราชทัณฑ์ต้องตกเป็นเบี้ยล่างแก่เจ้าหนี้อีกด้วย
"ผมขอขอบคุณนายกสภาทนายความฯ ที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพราะลำพังแค่กรมราชทัณฑ์ คงไม่สามารถดำเนินภารกิจที่สำคัญนี้ให้สำเร็จลุล่วงได้" พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
ขณะที่นายสหการณ์ กล่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำแนะนำ คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กว่า 13,000 คน จากสถานเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ที่มี 133 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการให้ความช่วยเหลือด้านการดำเนินคดีแพ่ง คดีอาญา หรือคดีปกครอง อันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ กรณีพนักงานอัยการไม่สามารถรับแก้ต่างให้ได้, การดำเนินคดีล้มละลาย อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือด้านกฎหมายสร้างองค์ความรู้ด้านกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ 

การลงนามฯในครั้งนี้ ถือเป็นการสนองนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ด้านการบริหารและขับเคลื่อนหน่วยงานในสังกัดฯ ให้เข้าสู่ยุค "ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือ ความยุติธรรมนำประเทศ" ซึ่งการจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้จะต้องประสานความร่วมมือกับสภาทนายความฯ ด้วยแนวคิด "รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกระดับสร้างความเปลี่ยนแปลง" มิติที่ 8 พัฒนา  ด้านการจัดสวัสดิการ ประกอบด้วย การควบคุมดูแลผู้ต้องขัง การพัฒนาพฤตินิสัย การศึกษา การสร้างอาชีพ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี  
ด้านนายกสภาทนาความ กล่าวว่า มีความยินดี ที่จะได้ร่วมลงในความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพราะทั้งสภาทนายความฯ และกรมราชทัณฑ์ ต่างเป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่ให้ระบบยุติธรรมทำงานได้อย่างสมบูรณ์  ที่ผ่านมา ทั้ง 2 หน่วยงาน มีความร่วมมือกันอย่างดี แต่วันนี้ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือกันในระดับองค์กร ที่สุดท้ายประโยชน์ที่ได้ จะกลับสู่สังคมอย่างมหาศาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น