ผอ.ปปช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ ชี้ อาจมีผู้ร่วมกระบวนการยักยอกเงินมากกว่า 3 คน แต่ยังไม่ฟันธงว่าเป็นคนในองค์กรหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่การเงินสาว อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ยักยอกเงินของทางราชการไปจำนวนทั้งสิ้น 11,600,000 บาท โดยมีการทำลายหลักฐานการเงินในช่วงเช้าวันหยุดตรงกับวันมาฆบูชา วันที่ 24 ก.พ.2567 เจ้าหน้าที่การเงินที่ก่อเหตุได้เข้าไปในห้องกองคลัง จากนั้น นำเอาเอกสารฎีกาเบิกเงินต่างๆ นำออกไปเพื่อทำลายทิ้ง พบว่า มีการนำเช็คจำนวนทั้งหมด 28 ใบ รวมเงินจำนวน 11,600,000 บาท ไปขึ้นเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งในเขต อ.กันทรลักษ์ จากนั้น มีการถ่ายโอนเงินไปยังคนใกล้ชิดและญาติของเจ้าหน้าที่การเงินสาว ซึ่ง นายก อบต.ได้ไปดำเนินการแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้วที่ สภ.กันทรลักษ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 มี.ค. 2567 ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำ จ.ศรีสะเกษ นายอดุลย์ วันดี ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ ได้รับมอบเอกสารด้านการเงิน และคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ต้องหาใช้ในการทำงาน จาก พ.ต.ท. สังวร วันทะวี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์ ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฏว่า คอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าว ได้มีการล้างข้อมูลในคอมพิวเตอร์ออกหมดแล้ว โดยไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการล้างข้อมูลออกจากคอมพิวเตอร์ในช่วงใด และผู้ใดเป็นคนดำเนินการ
นายอดุลย์ วันดี ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ได้นำเอกสารต่างๆมาส่งมอบ เราก็จะดำเนินการตรวจสอบสำนวนการสอบสวนก่อน ว่ามีรายละเอียดใดบ้างในการสอบปากคำผู้ต้องหา และรวมรวมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยในเบื้องต้น จะดำเนินการตรวจสอบก่อนว่า ผู้ต้องหานั้น เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกระทำตามตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่ หากตรงตามเงื่อนไข เราก็จะรับคำกล่าวหาไว้พิจารณา โดยจากการตรวจสอบสำนวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการแจ้งความดำเนินคดี จำนวน 3 คน ประกอบด้วย ตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพนักงานจ้าง และคนใกล้ชิดอีกจำนวน 2 คน แต่จะมีผู้อื่นเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อีกหรือไม่ ต้องมีการตรวจขยายผลในเรื่องนี้
นายอดุลย์ วันดี ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ส่วนจะมีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ในองค์กรคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ จากการตรวจสอบเอกสารทางการเงิน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ตามหลักความจริงน่าจะมีการตรวจสอบพบข้อพิรุธ ด้านการเงินมานานแล้ว แต่ปรากฏว่ากลับมาตรวจสอบพบตอนที่ สตง.มาตรวจพบ ทำให้เราเกิดความเคลือบแคลงสงสัย ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ อาจจะมีมากกว่านี้ก็เป็นได้ ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบในเรื่องนี้ต่อไป//////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น