วันที่ 31 มกราคม 2567 มีความคืบหน้ากรณีคนร้ายงัดห้างสรรพสินค้าดัง เข้าไปงัดขโมยสินค้าเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน รวมถึงไอแพด หายไปรวม +6 เครื่อง มูลค่าความเสียหายเกือบ 3 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อกลางดึกตี 3 คืนวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ระดมทีมสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่สอบสวนเก็บหลักฐานสำคัญ คือภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชาย สวมโม่งและหมวกปิดบังใบหน้า เข้าไปงัดร้านค้า ร้านทอง รวมถึงร้านโทรศัพท์ภายในห้าง ได้มือถือไปหลายรายการ ก่อนที่จะหลบหนีไปทางประตูหนีไฟ จึงมีการเร่งสืบสวนหาเบาะแส พร้อมนำภาพหลักฐานเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชน แจ้งเบาะแส
ด้าน ร.ต.อ.พิชานน ปลื้มสุด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ร้อยเวรเจ้าของคดีได้เชิญตัวผู้จัดการร้านมือถือ และพนักงานประจำร้านมาสอบปากคำ พร้อมนำซีเรียลและอิมมี่ประจำตัวเครื่องมายืนยัน ประกอบในสำนวนคดี และมอบซีเรียล-อิมมี่ให้สายสืบไปหาข่าว
ล่าสุด พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม นำทีมเข้าไปจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ในหอพักแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่บ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม หลังมีเจ้าของร้านรับซื้อมือถือให้เบาะแส พบผู้ต้องสงสัย นำโทรศัพท์มือถือไปขาย จึงสืบสวนติดตามจับกุมได้ เป็นชาย คือนายทินกร (สงวนนามสกุล) หรือต้อ นักศึกษาวิศวกร ชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยชื่อดัง อายุ 21 ปี ชาว อ.เรณูนคร จ.นครพนม จึงควบคุมตัวมาสอบสวน สารภาพทำไปเพราะติดพนันออนไลน์ เป็นหนี้สินไม่มีทางออก จึงตัดสินใจก่อเหตุ ปีนหลังคาโรยตัวเข้าไปในห้าง และก่อเหตุช่วงกลางดึก
นอกจากนี้ยังได้ มีการขยายผล ติดตามยึดของกลางคืน มี 1.ไอแพด 9 จำนวน 1 เครื่อง ราคา 24,400 บาท 2.ไอแพด โปร 11 จำนวน 1 เครื่อง ราคา 42,900 บาท 3.ไอโฟน 13 จำนวน 1 เครื่อง ราคา 23,500 บาท 4.ไอโฟน 14 จำนวน 1 เครื่อง ราคา 27,900 บาท 5.ไอโฟน 14 โปรแม็ก จำนวน 1 เครื่อง ราคา 43,900 บาท 6.ไอโฟน 15 โปรแม็ก จำนวน 1 เครื่อง ราคา 47,500 บาท และยังมีตู้โชว์สินค้า ชำรุดเสียหาย มูลค่า 10,000 บาท รวมค่าความเสียหายเป็นเงิน 220,100 บาท โดยของกลางบางส่วนมีการนำไปขายที่ร้านรับซื้อมือถือ และบางส่วนยังอยู่กับผู้ต้องหา พบมีเลขประจำเครื่องตรงกัน จึงตรวจสอบแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้มอบหมายให้ทีมสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน พร้อมนำภาพจากวงจรปิดประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนที่พบเบาะแส รวมถึงขอความร่วมมือไปยังร้านรับซื้อมือถือให้แจ้งเบาะแส จนมีการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ส่วนการดำเนินคดีผู้ต้องหาถือว่ามีฐานความผิดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วนผู้รับซื้อจะต้องพิจารณาเป็นรายไปว่า รับซื้อของโจรหรือไม่ อย่างไรก็ตามจะได้เพิ่มมาตรการเข้มในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
โดยแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ มีดังต่อไปนี้ หลังจากศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจาก รปภ.ห้างดัง เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น.ของวันที่ 30 มกราคม 2567 ว่า มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น อาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นภายในห้าง ตำรวจจึงมีการประสานกับผู้จัดการห้าง สั่งปิดพื้นที่บางส่วน เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมเจ้าของบูธตรวจสอบทรัพย์สิน เบื้องต้นมีตู้เอทีเอ็มบริษัทสินเชื่อเงินสด ถูกงัดจอด้านหน้าเปิดอ้าค้างไว้ ห่างกันประมาณ 10 เมตรเป็นบูธจำหน่ายโทรศัพท์มือถือค่ายดัง ตรงตู้โชว์สินค้า iphone มีรอยถูกงัดพบโทรศัพท์ยี่ห้อดัง ถูกคนร้ายขโมยไปจำนวน 6 เครื่อง มีรุ่นราคาแพงสุดเป็นไอโฟน 15 โปรแม็ก ราคา 47,500 บาท รวมมูลค่าเกือบ 3 แสนบาท ส่วนร้านทองคนร้ายไม่สามารถเปิดตู้นิรภัยได้ จึงไปเปิดประตูหนีไฟด้านโรงหนัง ด้วยการกระชากเคเบิ้ลไทร์ (Cable Tie) สายรัดหูจับจนขาดกระจุย สัญญาณจึงดังขึ้นดังกล่าว คนร้ายตกใจรีบเปิดประตูวิ่งไปทางด้านหลังห้าง ปรากฏว่ามีรั้วลวดหนามกีดขวาง คนร้ายพยายามจะมุดหนี แต่ยามเดินมาตรวจจุดที่สัญญาณดัง คนร้ายจึงเปลี่ยนใจวิ่งอ้อมไปอีกด้านหนึ่ง ไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดซ่อนอยู่ในป่า ขับหลบหนีไปหอพักที่เช่าอยู่บ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม
ต่อมาช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ตำรวจได้รับแจ้งจากร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง ว่า มีชายต้องสงสัยนำโทรศัพท์ไอโฟน 15 โปรแม็ก จำนวน 1 เครื่อง ราคา 47,500 บาท มาขายในราคา 19,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นของญาติฝากมาขาย ด้วยความสงสัยเพราะเพิ่งติดตามข่าว คนร้ายฉกมือถือในห้างดัง จึงขอบัตรประชาชนจดชื่อ-ที่อยู่ไว้ หลังจากนั้นก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมอบไอโฟนที่รับซื้อไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามตัวชายผู้ต้องสงสัยรายนี้
สายสืบชุดพยัคฆ์ สภ.เมืองนครพนม แกะรอยตามกล้องวงจรปิด ทราบว่าชายคนดังกล่าวขับ จยย.มายังหอพักบ้านเนินสะอาด จึงเข้าไปเชิญตัวมาสอบสวน ทีแรกอ้างว่าช่วงเวลาเกิดเหตุ นอนอยู่กับแฟนที่ห้อง แต่เมื่อสายสืบนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้าง ให้แฟนสาวของนายต้อดู ก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันแน่นอน คนร้ายจึงจำนนต่อหลักฐาน รับสารภาพว่าติดพนันเกมออนไลน์ ต้องการเงินไปใช้หนี้ จึงคิดสิ้นย่องไปก่อเหตุดังกล่าว โดยปีนหลังคาห้างที่อยู่ด้านโรงหนัง โรยตัวลงไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน ก่อนจะนำอุปกรณ์งัดแงะไปทิ้งไว้ในห้องน้ำชาย และหนีออกทางประตูหนีไฟ ทำให้มีสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ด้วยความตกใจจึงร้องว๊าย แล้ววิ่งไปทางด้านหลังไปเจอรั้วลวดหนาม พยายามจะมุดหนีแต่ไม่พ้น จึงมีรอยขีดข่วนที่มือหลายแห่ง ก่อนจะวิ่งหลบไปทางอีกด้านไปขับ จยย.กลับหอพัก กระทั่งบ่ายจึงเอามือถือไปขาย เพื่อจะเอาเงินมาใช้หนี้พนันออนไลน์ ไม่นานก็มีตำรวจมาควบคุมตัวไปสอบสวนดังกล่าว
ส่วนกรณีมีภาพนายต้อเข้าไปหยิบหมวกใบหนึ่ง ที่อยู่ในล็อกวางสินค้าของห้าง แล้วเดินออกทางช่องเก็บเงิน ผู้ต้องหาได้ยกหมวกขึ้นสูง เพื่อหลบการจับของเซ็นเซอร์ คล้ายมีประสบการณ์ทำงานลักษณะนี้มาก่อน นายต้อยอมรับว่าเคยทำงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพิ่งลาออกมาเรียนต่อระดับ ป.ตรี เมื่อปี 2563 จึงรู้ว่าในห้างเปิดเซ็นเซอร์ไว้ตลอด และก็รู้ว่าในห้างมีกล้องวงจรปิดทั่วทุกจุด แต่ด้วยถึงทางตันจำเป็นต้องลอบเข้าไปขโมยทรัพย์สินในห้าง ไม่คาดคิดว่าตำรวจจะติดตามตัวได้ในเวลารวดเร็ว ส่วนผู้ต้องหาเดินคล้ายสาวสอง ยอมรับว่ามีใจรักทั้งสองเพศ
//ภาพ-ข่าว//พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล//นครพนม (061-2838566)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น