วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ทวี รมว.ยุติธรรม เผยคดีประชามติแยกดินแดน อยู่ในกระบวนการยุติธรรม พร้อมติดตามปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 3 จว.ใต้ ให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด

      วันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดทำแผนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในมิติของศาสนา การพัฒนา และชุมชนพหุวัฒนธรรม ปี 2567 ที่ห้องประชุมปัญจเพชร ชั้น 3 ศอ.บต.โดยมีพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.  พร้อมด้วยพล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) รองแม่ทัพภาคที่ 4 /รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม 
      ทั้งนี้ ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวกรณีตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี แจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 “ยุยง ปลุกปั่น” กับนักกิจกรรมและนักศึกษาขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่ร่วมกันจัดกิจกรรม “ประชามติแยกดินแดน” ว่า ขั้นตอนนี้ถือเป็นคดีไปแล้ว ตอนนี้อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม และการประกันตัวสู้คดี ซึ่งเรื่องการประกันตัวหรือปล่อยชั่วคราว เป็นดุลยพินิจของศาล
      ส่วนทางกระทรวงยุติธรรม กำลังพิจารณาจัดทำกฎกระทรวง ตามมาตรา 89/1 คือคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน หรือที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด จะไม่ให้ปฏิบัติหรือควบคุมเหมือนนักโทษเด็ดขาด ซึ่งในจำนวนนี้ก็จะมีน้องๆนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องเรื่องต่างๆ แล้วโดนความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็จะได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบัน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการห้ามชุมนุมยกเลิกไปแล้ว แต่คดียังอยู่
      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นหลักการที่จะทำ ได้คุยกับเลขาธิการศาลยุติธรรม ทางศาลก็เห็นด้วย ซึ่งถ้าออกกฎกระทรวงมาแล้ว ก็จะเป็นดุลยพินิจของศาล ต้องไม่นำผู้ต้องหาหรือจำเลยที่คดียังไม่ถึงที่สุดมาขังหรือปฏิบัติเหมือนนักโทษเด็ดขาด เรื่องนี้หากยิ่งปล่อยไว้ก็จะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรค 2 ระบุไว้ชัดเจนว่า ตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสินถึงที่สุด จะบอกว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้ และระหว่างที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด จะปฏิบัติต่อผู้นั้นเหมือนเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าหน้าที่รัฐจะเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง ผู้ต้องหาและผู้ต้องขังกลุ่มนี้น่าจะมีอยู่ 2-3 หมื่นคน เขาจะได้มีเวลาไปต่อสู้คดี อยู่บ้าน หรือศาลอาจจะมีมาตรการต่างๆ เช่น จำกัดการเดินทางออกนอกประเทศหรือออกต่างจังหวัดก็ได้ เรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมจะเร่งแก้ไข” 
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า นโยบายของรัฐบาลโดย ป.ป.ส.ที่ได้กำกับดูแลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ประเมินว่า รัฐบาลมีความจริงจังและมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา และทำให้ปริมาณการค้ายาเสพติดจะต้องลดลงและหมดไป พร้อมทั้งลดจำนวนผู้เสพผู้ใช้ ตลอดจนจำนวนผู้ติดยาเสพติดรายใหม่ ถึงแม้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แต่ยังมีพืชบางชนิดเช่น ใบกระท่อมและกัญชาที่เป็นวาระทางกฎหมาย ซึ่งในส่วนของใบกระท่อม ที่จะต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและเคร่งครัด ดังนั้นปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาเร่งด่วนและเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนจะช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว 
   นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะฯได้เดินลงพื้นที่ไปยังมัสยิดหลักเขต (มัสยิดการุลนาอีม) หมู่ที่ ๙ ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อพบปะผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และกลุ่มที่จะจัดตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติดพร้อมส่งเสริมด้านอาชีพ และเดินทางต่อไปยังพื้นที่ตำบลบาลาเฮาะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมสถานบำบัดเอกซน บ้านแสนสุข 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น