วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

"พิพัฒน์" รมว.แรงงาน ห่วงใย มอบเลขาฯ อารี รุดเยี่ยมแรงงานที่กลับจากอิสราเอล แนะแผนการทำงาน ด้านหนุ่มชาวอุดรฯ ซึ้งใจได้เงินเยียวยารวดเร็ว

      วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล และติดตามความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านแรงงาน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุดรธานี ร่วมต้อนรับ ณ บ้านของนายเกียรติศักดิ์ พาที แรงงานชาวจังหวัดอุดรธานีที่เสียชีวิตในอิสราเอล ตั้งอยู่เลขที่ 63 หมู่ 13 ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี
 จากนั้นเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ได้เดินทางไปพบปะกับผู้ประกันตนมาตรา 40 ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี
ต่อมาในช่วงบ่าย นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ได้มอบเงินสงเคราะห์เนื่องจากภัยสงคราม จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศให้กับแรงงานไทยชาวจังหวัดอุดรธานีที่ต้องเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 6 รายๆ ละ 15,000 บาท เป็นเงินรวม 90,000 บาท และลงพื้นที่ไปยังสำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านหนองปิงน้อย ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายไกรสร อรัญถิตย์ แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล พร้อมมอบเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตเนื่องจากภัยสงครามจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศให้กับทายาทของนายไกรสร จำนวน 40,000 บาท
ก่อนเดินทางกลับนายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล และติดตามความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านแรงงาน จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายอนุชา โสภากุล แรงงานไทยที่เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 10 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี และนายจักรพงษ์ จันทรเสนา แรงงานไทยที่เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 5 ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
นายอารี กล่าวว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งท่านได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์เพื่อให้แรงงานไทยที่กลับมาและทายาทผู้เสียชีวิตได้รับเงินโดยเร็วที่สุด ในวันนี้จึงได้มอบหมายให้ผมลงพื้นที่มาพบปะกับแรงงานและครอบครัวด้วยตนเอง สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศของจังหวัดอุดรธานี พบว่า มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล 4,042 คน เดินทางกลับไทย 1,037 ราย เสียชีวิต 9 ราย ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี ผู้เสียชีวิตเหล่านี้ เคยทำงานในบริษัทในประเทศไทยและสมัครเป็นผู้ประกันตนมาก่อน จากนั้นได้เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล และเมื่อมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเกิดสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมขึ้น โดยได้จ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตให้กับทายาทแรงงาน จำนวน 7 รายที่เป็นผู้ประกันตน เป็นเงินรวม 160,749.83 บาท และอยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายสิทธิประโยชน์อีก 1 ราย
        ด้าน นายนเรศ ศรีอุดม หนึ่งในแรงงานไทยชาวจังหวัดอุดรธานีที่ไปทำงานในอิสราเอลและเดินทางกลับมาภูมิลำเนาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม กล่าวว่า ตนขอขอบคุณนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ได้มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามและให้ความช่วยเหลือในการจัดหาเที่ยวบินกลับประเทศไทย ตลอดจนช่วยเร่งรัดติดตามสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ได้เงินเยียวยาโดยเร็วขึ้น ตนยังขอบคุณหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนทั้งในอิสราเอลและในประเทศไทยที่ได้ให้การช่วยเหลือตลอดมา
สำหรับความคืบหน้าการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จากข้อมูลของกรมการจัดหางานเมื่อวันที่ 12 พ.ย.66 พบว่า ขณะนี้มีแรงงานยื่นคำร้องทั้งหมด 7,275 คน ยื่นที่กระทรวงแรงงานส่วนกลาง 112 คน ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 จำนวน 7,163 คน วินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้ว 3,355 คน เป็นกรณีเสียชีวิต รายละ 40,000 บาท จำนวน 19 คน กรณีบาดเจ็บ รายละ 30,000 บาท จำนวน 3 คน และกรณีผลกระทบจากภัยสงคราม รายละ 15,000 บาท จำนวน 3,333 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,845,000 บาท ส่วนการยื่นคำร้องขอค่าเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลถึงประเทศไทย ขณะนี้มีแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลได้ยื่นคำขอ จำนวน 3,066 ราย เอกสารคำขอจัดส่งกรมการกงสุลไปแล้ว 1,360 ราย โดยแรงงานไทยที่กลับมาจากอิสราเอลสามารถยื่นคำขอค่าเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลถึงประเทศไทยได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ที่กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพฯ และสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยสามารถติดตามการยื่นคำขอได้ที่ Hotline call center กรมการกงสุล โทร.0 2572 8442

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น