(1 พฤษภาคม 2567) - ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรมว่า วานนี้ (30 เมษายน 2567) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นายพลรักษ์ รักษาพล คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมให้การต้อนรับ Datuk Haji Nordin bin Haji Muhamad อธิบดีกรมราชทัณฑ์มาเลเซีย พร้อมด้วยคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 11 อาคารกระทรวงยุติธรรม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบปะกันในครั้งนี้ โดยเห็นพ้องด้านความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดินทางไปศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวถึงงานราชทัณฑ์ของกระทรวงยุติธรรมในประเทศไทย ที่แก้ปัญหาในประเด็นผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีสัดส่วนสูงถึง 75% มีระดับการศึกษาที่น้อยกว่าเกณฑ์ ซึ่งปัจจุบัน ทางกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทุกคน การศึกษาขั้นพื้นฐานแบบให้ฟรี อย่างน้อยที่สุดต้องจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับคนที่เรียนจบ ม. 6 แล้ว รวมถึงช่วยพัฒนาศักยภาพเรื่องอาชีพควบคู่กันไปด้วย
ในการนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์มาเลเซีย ได้กล่าวขอบคุณ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ให้การต้อนรับในการมาเยือน เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันต่อเนื่องจากการเข้าร่วมประชุมผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานราชทัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Correctional Conference (ARCC) ) ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนมกราคม 2567 โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนางานด้านราชทัณฑ์และการปรับปรุงพฤตินิสัยซึ่งไทยและมาเลเซียมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน การปรับใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลผู้ต้องขัง การช่วยเหลือผู้ต้องขังกลับคืนสู่สังคม รวมถึงผลักดันการจัดทำการจัดทำสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษระหว่างไทยและมาเลเซียซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาให้สำเร็จโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เนื้อหาการหารือ ยังยินดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไทย โดยเฉพาะระหว่างหน่วยงานราชทัณฑ์ในจังหวัดทางภาคใต้กับทางฝ่ายมาเลเซีย รวมถึงแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมในการปรับปรุงพฤตินิสัยผู้ต้องขัง และเสริมสร้างความร่วมมือด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น