วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567

บริษัทอาหารญี่ปุ่น ชมแรงงานไทยมีทักษะ "พิพัฒน์" เชื่อมขยายผล ทันที! เปิดรับแรงงาน เริ่มวุฒิ ม.6 รายได้ 3 หมื่นขึ้นไป

วันที่ 9 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา นางสาวสดุดี กิตติสุวรรณ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงานในประเทศญี่ปุ่น และคณะ เยี่ยมเยียนพบปะให้กำลังใจพร้อมกล่าวทักทายและให้โอวาทกับผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิค แรงงานไทย รวมทั้งหารือการขยายตลาดแรงงานไทยกับนายจ้างและองค์กร Ai Family ณ บริษัท Kanemi Foods Co., Ltd. 
ผู้ผลิตอาหารพร้อมทาน ส่งให้กับ 
แฟมิลี่มาร์ท และ ดองกิโฮเต้ ร้านค้าขายของ ทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยมี Mr.Terayama Masaya ประธานบริษัท Kanemi Foods Co., Ltd. พร้อมด้วย Mr. Furuya Masahiro ประธานองค์องค์กร Ai Family Cooperative Society และแรงงานไทยที่ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิค ร่วมให้การต้อนรับ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นโอกาสอันนี้ที่ผมและผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้มาเยี่ยมเยียนแรงงานไทยที่บริษัท Kanemi Foods แห่งนี้ การมาทำงานในต่างประเทศนับเป็นโอกาสของทุกคนที่ได้มาเปิดหูเปิดตาม เรียนรู้ทักษะ รับการถ่ายทอดเทคนิค เทคโนโลยี โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นช่วงนี้ ทราบว่า ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงและค่าครองชีพในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้เสมือนเงินค่าจ้างที่ได้รับลดลง ซึ่งจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จึงขอมาให้กำลังใจแรงงานไทย ตั้งใจทำงาน เก็บเกี่ยวความรู้ วินัยการทำงาน สั่งสมประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ติดตัวกลับไปได้เพิ่มเติมจากเงินค่าจ้าง รวมทั้งนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากญี่ปุ่นกลับไปพัฒนาท้องถิ่นบ้านเกิดของพวกเราและประเทศชาติ
“การอยู่และทำงานในต่างประเทศนั้นไม่ได้ง่ายเลย ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต พร้อมกับเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น ปรับตัวเข้ากับสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ประพฤติตัวตามกฎระเบียบของโรงงานและกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น น้อง ๆ แรงงานไทยนับเป็นกำลังสำคัญของนายจ้าง มีผลการปฏิบัติงานดี และได้รับความชื่นชมจากนายจ้าง ซึ่งแรงงานไทยเป็นกำลังสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สามารถรักษาตลาดแรงงานไทยกับนายจ้างที่นี่มายาวนานเป็น 10 ปี ก็ขอให้รักษาสืบสานความดีความตั้งใจกันไว้รุ่นต่อรุ่น และช่วยเหลือเจือจุนกันในระหว่างที่อยู่ในต่างประเทศ ยังมีแรงงานไทยรุ่นใหม่ที่ต้องการมาทำงานในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต้องการจะมีโอกาสเช่นเดียวกันกับทุกคนในที่นี้ ซึ่งผมขอให้แรงงานไทยทุกคนรักษาความเป็นไทย มีระเบียบวินัย ประพฤติปฏิบัติตนในฐานะคนไทยที่ดี ช่วยเผยแพร่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอันดีของชาติไทยให้กับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าชาวญี่ปุ่นด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ผมขอขอบคุณบริษัท Kanemi Foods และองค์กร Ai Family ที่ได้ให้ต้อนรับการเดินทางมาเยี่ยมเยือนผมและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานอย่างอบอุ่นในวันนี้ ญี่ปุ่นนอกจากมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมการทำงานที่น่าสนใจที่เป็นประโยชน์กับแรงงานไทยที่จะเดินทางมาศึกษาเรียนรู้ ซึ่งบริษัท Kanemi Foods เป็นนายจ้างที่มีศักยภาพในกลุ่มผู้ผลิตอาหาร ที่ปัจจุบันเทรนด์อาหารพร้อมรับประทาน (เบนโตะ) และอาหารแช่แข็งมีแนวโน้มเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในโลก บริษัทฯ เริ่มรับแรงงานไทยมาทำงานครั้งแรกเมื่อปี 2556 จนถึงปัจจุบันมีการจ้างแรงงานไทยจำนวน 1,192 คนทั่วประเทศญี่ปุ่น และในโรงงานที่เกียวโตแห่งนี้ จำนวน 112 คน นอกจากนี้ ด้วยการใส่ใจดูแลแรงงานไทยที่ดี รวมถึงการสนับสนุนจากองค์กร Ai Family ทำให้มีแรงงานเข้ามาทำงานรุ่นต่อรุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยวัตถุประสงค์หลัก ๆ ของประเทศไทยในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศประเทศเพื่อให้แรงงานไทยได้มีโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการทำงาน สั่งสมประสบการณ์ และนำพาความรู้และเทคโนโลยีที่ได้ กลับไปพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

“จากการเยี่ยมเยียนและรับฟังการบรรยายของบริษัท แสดงให้ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า เป็นความโชคดีของแรงงานไทยที่ได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝนการทำงานกับอย่างเต็มที่จนมีความชำนาญในการทำงาน อย่างไรก็ดี ยังมีแรงงานไทยที่มีศักยภาพอีกจำนวนมากที่ประสงค์จะมาทำงานในญี่ปุ่น จึงขอให้บริษัทพิจารณารับแรงงานไทยเข้ามาเพิ่มเติมและเพิ่มโอกาสให้แรงงานไทยได้มีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตและเป็นกำลังสำคัญในการขยายส่วนแบ่งตลาดที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปของบริษัทต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น กับกรมการจัดหางาน อายุ 20 - 30 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปวช.ปวส.โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทร. 0 2245 9428 หรือสายด่วน กระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น