วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

พิษณุโลก แม่ทัพน้อยที่ 3 ย้ำฝึกปลอดภัย ระวังโรคฮีตสโต ตรวจความพร้อมเตรียมรับทหารใหม่

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.67  พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 3/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 และคณะ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมในการเตรียมการตอนรับน้องทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/67 ที่จะเข้ามารับราชการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ที่ 3 กองพันซ่อมบำรุงที่ 23 กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จังหวัดพิษณุโลก โดยตรวจการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับน้องทหารใหม่ในการมารายงานตัว ตั้งแต่ การรายงานตัว, การดำเนินการงานด้าน ธุรการต่างๆ การเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ต้องใช้ตลอดการฝึกโดยต้องมีความพร้อม ก่อนทหารใหม่เข้ามารายงานตัว โดยสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆต้องมี คุณภาพสูง ได้มาตรฐาน ตรวจความพร้อมด้านที่พักอาศัย สถานที่ฝึก, โรงประกอบเลี้ยงตลอดจนเขตสุขาภิบาล ให้มีความพร้อมสะดวกสบายถูกสุขอนามัย ในส่วนการปฐมพยาบาลและการส่งตัวผู้บาดเจ็บ หากเกิดการบาดเจ็บในระหว่างการฝึก มีการเตรียม เครื่องมือ รถพยาบาล และ เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ผ่านการฝึกอบรมเป็นอย่างดี พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 3 
ทั้งนี้แม่ทัพน้อยที่ 3 ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของน้องคนเล็ก ผลัดที่ 1/67 ในการเข้ารับการฝึกตามหลักสูตรโดยให้ครูฝึกทหารใหม่ดูแลการกินอยู่ของน้องทหารใหม่ให้ดี ถูกต้องตามสุขอนามัยตามนโยบายสาธารณสุขตลอดระยะเวลาการฝึก 6 สัปดาห์ ในด้านการฝึกได้เน้นย้ำให้ครูฝึกดำเนินการฝึก จากเบาก่อนแล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามลำดับเพื่อให้เกิดการปรับตัว ทั้งนี้ให้ฝึกโดยเป็นไปตามาตรการป้องกันโรคติดต่อตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และได้ให้นโยบายใน การดำรงการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวของน้องทหารใหม่ ในระหว่างการเข้ารับการฝึก เพื่อให้ครอบครัวทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของน้องทหารใหม่ รวมทั้งให้น้องทหารใหม่ทราบข่าวสารของครอบครัวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย  พร้อมกันนี้แม่ทัพน้อยที่ 3 ได้มอบสิ่งของ บำรุงขวัญเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ ชุดครูฝึกทหารใหม่อีกด้วย 
พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 3  ได้กล่าวเน้นย้ำเกี่ยวกับการฝึก ให้หลีกเลี่ยงในช่วงอากาศที่ร้อนจัด  เพราะจะเกิด โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก                 ( Heatstroke )  ซึ่งโรคอันตรายที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อน โดยเกิดจากที่อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนมากเกินไป  ทำให้เกิดภาวะร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เมื่อเกิดอาการควรได้รับการรักษาในทันที เพราะอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า อาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิต  พร้อมต้องมีแผนรองรับ ตลอดเวลาการฝึกทุกครั้ง 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น