วันนี้ (21 มีนาคม 2567) ณ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศ ไทย ร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ในการลงนามแผนงานฉบับแรกร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง ศอ.บต. และ ยูนิเซฟ ในการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กใน จชต. โดยความร่วมมือในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและครอบครัว ด้วยการเสริมสร้างกลไกคุ้มครองเด็กในระดับพื้นที่ให้เข้มแข็ง เพื่อเอื้อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ อาทิ การศึกษา บริการด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต สถานะทางบุคคล และอื่นๆ
นาง คยองซอน คิม กล่าวว่า “ยูนิเซฟรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับ ศอ.บต. อย่างเป็นทางการ การจัดทำแผนงานครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการสนับสนุนเด็กที่มีความเปราะบางในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยูนิเซฟได้ทำงานร่วมกับ ศอ.บต. อย่างใกล้ชิดมาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยมุ่งเน้นการทำงานด้านการคุ้มครองเด็ก ซึ่งมีความสำคัญยิ่งในภูมิภาคที่เด็กต้องเผชิญกับความเปราะบางสูง เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทย จากข้อมูลรายงานสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยฉบับล่าสุดพบว่า เด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ประสบกับปัญหาทุพโภชนาการสูง อัตราการฉีดวัคซีนในเด็กที่มีอัตราต่ำสุดในประเทศ รวมถึงทักษะการอ่านออกเขียนได้และการคิดคำนวณที่ค่อนข้างต่ำหากเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งแผนงานความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนงานด้านการคุ้มครองเด็กได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการสนับสนุนสถานะทางบุคคลสำหรับเด็กที่ข้ามพรมแดนให้เข้าถึงบริการที่จำเป็น การลงนามแผนงานร่วมกันในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของยูนิเซฟในการร่วมมือกับ ศอ.บต. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้และในประเทศไทย”
ด้านพันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ กล่าวเสริมว่า “นี่เป็นการลงนามความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง ศอ.บต. กับองค์กรระหว่างประเทศ และ ศอ.บต. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามกับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย หลังจากที่เราได้ทำงานร่วมกันเพื่อเด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มาหลายปี ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดทำแผนงานร่วมกันในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่แล้ว ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ทักษะ และความเชี่ยวชาญของบุคลากรและองค์กรทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคประชาสังคม ในการทำงานด้านเด็กและเยาวชนด้วย เนื่องจากแผนงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เป็นหนึ่งในแผนงานหลักที่ ศอ.บต. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด”
สำหรับการดำเนินงานระหว่าง ยูนิเซฟ และ ศอ.บต. มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผ่านศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศป.ดส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ ศอ.บต. เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งในระบบคุ้มครองเด็ก การใช้ประโยชน์จากข้อมูลรายงานและการศึกษาต่าง ๆ ที่ทางยูนิเซฟได้จัดทำขึ้นไปใช้ในการกำหนดแผนงานเชิงกลยุทธ์และนโยบายขององค์กร และการให้การสนับสนุนเด็กและครอบครัวในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ว่าจะเป็นช่วงอุทกภัยและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ซึ่งความร่วมมืออย่างเป็นทางการในครั้งนี้จะช่วยให้การขับเคลื่อนงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัวในจังหวัดชายแดนใต้และประเทศไทยต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น