วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

แรงงานเฮ!! บอร์ดค่าจ้างมีมติเอกฉันท์ขึ้นค่าจ้าง 400 บาท นำร่อง 10 จังหวัดท่องเที่ยว มีผล 13 เม.ย.นี้ เป็นของขวัญวันสงกรานต์

วันที่ 26 มีนาคม 2567 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 ครั้งที่ 3/2567 เพื่อพิจารณาการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การบริการโรงแรมและที่พัก ในพื้นที่ 10 จังหวัดว่า คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งที่ 3/2567 ในวันนี้ (26 มี.ค.67) เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม เพื่อใช้สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการประเภทกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 400 บาท และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567 นำร่องในเขตพื้นที่จังหวัด 10 จังหวัด ได้แก่ 
1) กรุงเทพมหานคร เฉพาะเขตปทุมวัน และเขตวัฒนา 2) จังหวัดกระบี่ เฉพาะเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง 3) จังหวัดชลบุรี เฉพาะเขตเมืองพัทยา 4) จังหวัดเชียงใหม่เฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 
5) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะเขตเทศบาลหัวหิน 6) จังหวัดพังงา เฉพาะเขตเทศบาลตำบลคึกคัก  
7) จังหวัดภูเก็ต 8) จังหวัด ระยอง เฉพาะเขตตำบลบ้านเพ 9) จังหวัด สงขลา เฉพาะเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และ 10) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เฉพาะเขตอำเภอเกาะสมุย 
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ขณะที่ธุรกิจการให้บริการที่พักแรมมีการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง และ 10 พื้นที่/จังหวัดดังกล่าวเป็นพื้นที่จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง  คณะกรรมการค่าจ้างฯ จึงได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมครั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  
“การประชุมไตรภาคีในวันนี้ทุกฝ่ายมีมติเป็นเอกฉันท์ ซึ่งเราจะนำร่องก่อน อย่างน้อยเราจะมองค่าแรงในมิติเดิมๆ ไม่ได้แล้ว เราต้องมีมิติพิจารณาในประเภทกิจการเป็นรายจังหวัดก่อน หลังจากนี้ทางไตรภาคีจะพิจารณาอัตราค่าจ้างในประเภทกิจการอื่นๆ ต่อไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและการจ้างงานด้วย”นายไพโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการค่าจ้างฯ ได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม โดยพิจารณาบนพื้นฐานของความเสมอภาค และรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้าง/ลูกจ้าง สามารถประกอบธุรกิจและดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข ซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างจะได้มีการติดตามผลกระทบที่เกิดจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม เพื่อนำไปสู่การพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของคณะกรรมการค่าจ้างด้วยความรอบคอบต่อไป โดยจากนี้สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้างจะเสนอเรื่องไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 2 เมษายนนี้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ ก่อนประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น