วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2567

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาขาติ ร่วมงานละศีลอด รอมฎอน ฮ.ศ.1445 ณ มัสยิดฮารูณ ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

(วันที่ 29 มีนาคม 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก มัสยิดฮารูณ ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ว่า เมื่อเวลา 18.31 น. ที่ผ่านมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เดินทางมาร่วมงานละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1445
ทั้งนี้ มัสยิดฮารูณ เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2371 โดยโต๊ะฮารูณ บาฟาเดน ชาวเมืองปนตียานักจากเกาะบอร์เนียว โต๊ะอิหม่ามคนแรกของมัสยิด เพื่อเป็นมัสยิดของชุมชนหมู่บ้านต้นสำโรง ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณชุมชนมัสยิดฮารูณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2442 รัฐบาลไทยได้เวนคืนพื้นที่ตั้งมัสยิดซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อสร้างอาคารศุลกสถาน มัสยิดจึงย้ายมายังบริเวณที่ตั้งปัจจุบันซึ่งถอยร่นเข้ามาจากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสร้างอาคารมีลักษณะเป็นเรือนไม้สักยกพื้นชั้นเดียว ต่อมา หะยีมูฮำหมัด ยูซุป หรือต่วนโส ผู้เป็นโต๊ะอิหม่ามคนถัดมาได้รื้ออาคารมัสยิดเดิมลงและก่อสร้างอาคารก่อิฐถือปูนขึ้น สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2477 และยังคงใช้งานสืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน เครือข่ายสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ก “ประชาชนประชาขาติ” ได้เผยแพร่ เนื้อหาคำอวยพร ของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ว่า “เนื่องในโอกาสเข้าสู่เดือนรอมฎอนปีนี้ ปี 2567 ตรงกับปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ขอส่งความปรารถนาดีถึงพี่น้องมุสลิม ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
จิตใจที่เข้มแข็ง มั่นคงต่อการประกอบอิบาดะห์
ในเดือนอันประเสริฐนี้และขอให้เป็นเดือนรอมฏอน
ที่มีความสุขความอบอุ่นจากครอบครัวญาติพี่น้อง
ขอให้ท่านได้รับพรอันประเสริฐ จากเอกองค์อัลลอฮฺ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า งานเลี้ยงละศีลอดรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 เป็นห้วงเวลาสำคัญทางศาสนาอิสลาม ที่พี่น้องชาวมุสลิมทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศและต่างประเทศ จะได้ร่วมกันปฏิบัติศาสนกิจอันประเสริฐยิ่งอย่างสมบูรณ์ตามหลักศาสนาที่ได้บัญญัติไว้อีกครั้ง ด้วยการถือศีลอดด้วยจิตใจที่มั่นคง แน่วแน่ และอดทน อันเป็นการส่งพลังแห่งศรัทธาต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และยังเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องชาวมุสลิมจะได้น้อมจิตรำลึกถึงพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาให้ เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำรงตนให้เป็นผู้ที่อยู่ในกรอบแห่งความดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นำมาซึ่งความรัก ความสามัคคี และความสุขต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ รวมถึง การจัดงานเลี้ยงละศีลอดในวันนี้ เป็นวาระโอกาสแห่งความสิริมงคลในการเริ่มต้นเดือนรอมฎอน อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์ มีความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่โดดเด่นและหล่อหลอมเข้าด้วยกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น