วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567

"พิพัฒน์" รมว.แรงงาน อัพเกรดประเทศไทย upskillแรงงานหนุนการลงทุนจากต่างประเทศ และป้อนแรงงานเข้าภาคการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล

    เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 เวลา 17.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเวทีเสวนา “แผนยุทธศาสตร์อัปเกรดประเทศไทย” ในงาน TNN Dinner Talk โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ณ ห้องแมกโนเลีย บอลรูม ชั้น 10 โรงแรมวอดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ  
. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมั่นยกระดับแรงงานไทยให้เป็นกำลังแรงงาน ที่มีศักยภาพสูง ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ มีเป้าหมายเร่งแก้ไขปัญหาด้านแรงงานในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านรายได้ด้วยการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีทักษะสูง มีรายได้ที่เพียงพอ กับสภาพเศรษฐกิจ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การดำเนินงานของผมนั้น มีผลงานสำคัญในระยะเร่งด่วน Quick win 100 วัน ที่ดำเนินการแล้ว ได้แก่  จัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานและกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ เพื่อให้แรงงานที่มีทักษะฝีมือและผ่านการทดสอบฝีมือแรงงานในแต่ละสาขาอาชีพได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือที่กำหนดไว้ โดยปัจจุบันมีการจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานแล้วทั้งสิ้น 275 สาขา รองรับการลงทุนจากต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรม เช่น ช่างฝีมือเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และ อาชีพในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ได้มีค่าจ้างตามฝีมืออาชีพ เริ่มต้น 600 บาทต่อวัน ใน 53 ฝีมืออาชีพ
ซึ่งในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานภาคการท่องเที่ยว รองรับนโยบายจากรัฐบาลตั้งเป้าหมายรายได้จากนักท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท  ปี68 เตรียมพัฒนาฝีมือแรงงาน 400,000 คน  เพื่อรองรับการขยายตัว ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเพิ่มสิทธิผู้ประกันตน SSO 515 “รักษา 5 โรคร้ายแรงและ ได้รับการผ่าตัดทำหัตการภายใน 15 วัน”  , เพิ่มสิทธิผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคหยุดหายใจขณะหลับและมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้าสามารถเบิก ค่าตรวจการนอนหลับ (Sleep test)ได้ตามจริง  และอุปกรณ์เสริมสำหรับการรักษาได้ รวมถึงให้บริการทันตกรรมเชิงรุกเพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงสิทธิประโยชน์มากขึ้น ด้วยการนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่ (SSO Mobile e-Dent) ให้บริการที่สถานประกอบการ ทั้งถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด อุดฟัน ให้ได้รับความสะดวกสบายในการรักษาพยาบาลมากขึ้น ,เพิ่มสิทธิวันลาคลอด จาก 90 วัน เป็น 98 วัน หรือ 14 สัปดาห์ โดย ลูกจ้างที่ลาคลอด จะได้รับค่าจ้างจากในอัตรา 100% ของค่าจ้าง จากนายจ้างและสำนักงานประกันสังคม คนละครึ่ง รวมลูกจ้างชายลาเพื่อไปช่วยเหลือภรรยาที่คลอดบุตรโดยให้นายจ้างใช้ดุลยพินิจพิจารณากำหนดจำนวนวันลาของลูกจ้างเพื่อไปช่วยเหลือภรรยานับแต่วันที่ภรรยาคลอดบุตร ตามความเหมาะสมด้วย
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า   กระทรวงแรงงานยังได้บูรณาการความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และสร้างจิตสำนึกความเป็นไทย เตรียมทำ BIG DATA ในการเชื่อมโยงข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพโดยมุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพแรงงาน สร้างโอกาสในการทำงาน ส่งเสริมให้ผู้เรียน ได้รับการแนะแนวอาชีพ มีประสบการณ์ ในการฝึกงานเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน และได้มีการพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนและประชาชนทั่วไปได้เรียนและทำงานควบคู่กันไป โดยนำผลการเรียนรู้ที่ได้จากประสบการณ์ในการทำงาน หรือการฝึกอบรม มาเทียบโอนและทดสอบเพื่อออกใบรับรองความรู้ความสามารถ ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น