รมว.แรงงาน “พิพัฒน์” เป็นประธานในพิธีเปิดงานครบรอบ 38 ปี “12 พฤศจิกายน วันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน” ชูนโยบาย Safety Thailand ตั้งเป้าอัตราการประสบอันตรายลดลงร้อยละ 4 ต่อปี พร้อมชื่นชม ปี 66 ลดลงเกินเป้า
วันนี้ (10 พ.ย. 66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยในฐานะประธานในพิธีเปิดงาน “12 พฤศจิกายน วันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ประจำปี พ.ศ. 2567” ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 ว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญในการดูแลด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของผู้ใช้แรงงาน ร่วมกับ
ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง โดยยกระดับการขับเคลื่อนตามนโยบายความปลอดภัย และอาชีวอนามัยของประเทศไทยหรือที่เรียกว่า Safety Thailand และมีการกำหนดให้นายจ้างของสถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีบุคลากร
เข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านความปลอดภัยฯ ในสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 ซึ่งเรียกว่า “เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน” หรือ จป. ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษา แนะนำ ดำเนินการตรวจสอบ ประเมินอันตรายในการทำงานให้แก่นายจ้างและลูกจ้าง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดสภาพความปลอดภัยต่อคนทำงาน ปราศจากอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน โดยในช่วงหลายปีผ่านมา และในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้กำหนดเป้าหมายของการประสบอันตรายฯ (กรณีร้ายแรง) ต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 4
และคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ในอดีตเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน จะมีบทบาทเฉพาะในสถานประกอบกิจการของตนเองเท่านั้น แต่ต่อมา กรมฯ ได้มีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาและขยายการมีส่วนร่วมออกสู่ภายนอกสถานประกอบกิจการ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2557 ได้มีการรวมตัวกันของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานในรูปแบบชมรม/สมาคมเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างผู้ที่ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย ตลอดจนร่วมขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยร่วมกับภาครัฐ และมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น ปัจจุบันมีจำนวน 90 ชมรมทั่วประเทศ อีกทั้งได้กำหนดให้วันที่ 12 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน” และผลักดันให้มีบทบาทในการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานประกอบกิจการ ตลอดจนชุมชนบริเวณโดยรอบให้เกิดการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัย โดยนำความรู้ความสามารถขยายผล
เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชนและสังคม ผ่านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ อาทิ การให้ความรู้ด้านความปลอดภัย
ในชีวิตประจำวัน และการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟในสถานศึกษา เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น