(วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและมอบนโยบายการดำเนินงานป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต ที่ปรึกษาสำนักงาน ป.ป.ส. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฯ ณ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ
โอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวว่า คำว่า “ผู้เสพ" เป็น "ผู้ป่วย” เป็นหลักการของสหประชาติที่ถูกแปลงมาเป็นกฎหมาย และนี่คือกฎหมายที่ ป.ป.ส. จะต้องใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหายาเสพติด แต่การรับรู้ของประชาชนเป็นการรับรู้ที่แตกต่างกันออกไป เพราะหลังจากนี้เป็นต้นไปเมื่อเราอยู่ในระบอบรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเรียกว่าระบอบรัฐสภา หลักการสำคัญที่เขียนไว้ ในมาตรา 3 วรรค 2 คือ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม
ในส่วนเรื่องของยาเสพติด ประชาชนมองว่า ยาเสพติดเป็นภัยของมนุษยชาติ บ่อนทำลายความมั่นคงของเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาตินั้น ๆ ทำลายสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้เสพ ที่เป็นบ่อนทำลายความสุขและฐานะทางเศรษฐกิจของสังคม ครอบครัว เครือญาติ และชุมชน
โดยอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ท่านจะต้องให้คำแนะนำและประสานงานกับข้าราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ชุมชนหมู่บ้าน รัฐวิสาหกิจ องค์กรของรัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ มาจำแนกเป็นกิจกรรมเพื่อจะแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งอยากให้เป็นยุคทองของ ป.ป.ส. ให้บุคลากร ป.ป.ส.ทุกคน มาร่วมกันต่อสู้เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด และสิ่งที่สำคัญ คือ การประสานงาน ติดตาม และประเมินผล การดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด ผมมีหน้าที่มาส่งเสริม สนับสนุนน ให้กำลังใจ ปกป้อง คุ้มครอง ผู้ที่ทำหน้าที่ เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมทั้งหวังว่าใน 1 ปีนี้จะเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ มีศักยภาพ มีธรรมมาภิบาลต่าง ๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งอาจจะไม่ได้สำเร็จทันที แต่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติและขอให้ร่วมมือกันในการแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น