วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประกาศตั้งพื้นที่พิเศษ 11 อำเภอชายแดนปราบหนักยาเสพติด สารตั้งต้นรอบ 50 ปี มีแม่ทัพน้อยเป็นผู้บัญชาการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 พ.ย.) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานด้านการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบนโดยหลังการหารือกับ พล.ท.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ รวมทั้งกองกำลังผาเมือง ตำรวจ ภ.5 สำนักงานป้องกันและปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 แล้ว ได้เดินทางไปเยี่ยมฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เขียงราย เพื่อรับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งพบว่าเมื่อเร็วๆ นี้ทาง ฉก.ไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง พึ่งยึดของกลางยาบ้าได้จำนวน 11 ล้านเม็ด ได้บริเวณส้นทางหมู่บ้านใหม่เมืองชจ้อด ต.เมืองหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ด้วย


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่มีจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้จัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ภาคเหนือ โดยใช้ประมวลกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดมาตรา 5 (10) กำหนดให้มีพื้นที่พิเศษที่จะต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นโดยมีการจัดโครงสร้าง จัดสรรงบประมาณ กำหนดวิธีดำเนินการ ฯลฯ ในเขต 11 อำเภอของชายแดนด้าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย โดยมี พล.ท.นฤทธิ์ เป็นผู้บัญชาการ สาเหตุเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าภายในประเทศไทยไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติดแต่ยังคงมีอยู่ในเขตที่เรียกกันว่าสามเหลี่ยมทองคำและมีชนกลุ่มน้อยต่างๆ มีการสู้รบกัน ส่งผลทำให้มีการลักลอบนำเข้ามาตามพื้นที่ชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ เข่น ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงไป ฯลฯ  ก็ทำงานป้องกันและปราบปรามกันอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากพื้นที่นอกประเทศมีกองกำลังที่จำเป็นต้องหาเงินเพื่อใช้ในการสู้รบจึงทำให้มีความพยายามจะลักลอบนำเข้า ดังนั้นพื้นที่พิเศษนี้จะเข้าไปจัดการทุกมิติรวมถึงสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ด้วย หลังจากที่ในอดีตบางชนิดอาจไม่ผิดกฎหมาย แต่หลังการประกาศเขตพิเศษนี้เจ้าหน้าที่ก็จะหาช่องทางทางกฎหมายเพื่อกำหนดให้เป็นสินค้าต้องห้ามหรือให้ตรวจสอบได้ต่อไป

"ที่ปฏิบัติกันอยู่เดิมนั้นพบว่าเรื่องการปราบปรามก็มีผลเป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะภาคเหนือมีการจับกันได้มาก ทำให้ของกลางไม่ถึงแหล่งพักยาในกรุงเทพฯ และภาคกลาง แต่อย่างไรก็ตามจะมีการปฏิบัติการกันใหม่นี้กันใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป จากนั้นจะมีการประเมินทุก 1 ปี หน่วยงานที่จะมาร่วมกับแม่ทัพน้อยที่ 3 จะมีอำนาจตัดสินใจและใช้กฎหมายที่มีอยู่ทุกรูปแบบแม้แต่กฎหมายของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาให้ได้โดยกำหนดเขตทั้ง 11 อำเภอดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ในรอบ 50 ปีเพราะที่ผ่านมาไม่เคยใช้วิธีการนี้มาก่อน" พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว


ผู้สื่อด้านข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านแหล่งข่าวหน่วยงานด้านยาเสพติดปัจจุบัน แจ้งแหล่งผลิตยาเสพติดทั้งยาบ้า ไอซ์ เฮโรอีน ฯลฯ ยังคงอยู่ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนขนมาพักคอยตามแนวชายแดนที่ใกล้กับ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพื่อรอการลักลอบนำเข้าสู่ประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน ต.ค.2565-ปัจจุบัน กองกำลังผาเมือง ได้สกัดกั้นการลักลอบเข้ามาแล้วจำนวน 497 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 600 คน ยึดยาบ้าได้จำนวน 55.8 ล้านเม็ด ไอซ์น้ำหนัก 2,007 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น