กลุ่มบุคคล ที่มีรายชื่อในระบบประวัติอาชญากรรม ติดแบล็คลิสต์ ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว แต่เป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนานโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่จะพบมากที่สุดกับกลุ่มที่ต้องเดินทางระหว่างประเทศ พรรคประชาชาติซึ่งเป็นพรรคการเมืองของคนพื้นที่ รับเรื่องร้องเรียนมาตลอด และแก้ปัญหาเป็นรายๆไป
ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเองก็ยอมรับ ปัญหานี้ส่วนมากจะเจอปัญหาก่อนถึงจะสามารถลบได้ เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าใครบ้างมีชื่อ
เมื่อพรรคประชาชาติเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเจ้ากระทรวงยุติธรรม ซึ่งทางโฆษกพรรคออกมายืนยันแล้วว่า นอกจากเรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนแล้ว และได้ผลักดันให้ยกเลิก พรรคประชาชาติ ยังได้มีนโยบายล้างข้อมูลแบล็คลิสต์ทั้งหมด ที่หัวหน้าพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เตรียมล้างข้อมูลทั้งหมดเพื่อ คืนศักดิ์ศรี ให้ประชาชน
นายกมลศักดิ์ วาลีเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ กล่าวถึงนโยบายของพรรคประชาชาติ ที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ในเรื่องของการผลักดันให้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ สิ่งสำคัญคือ การลบประวัติอาชญากรรม
นอกเหนือจากนโยบายที่ผลักดันให้ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน อีกนโยบายที่เรา เป็นพรรคที่อยู่ในพื้นที่ มีรมว.ยุติธรรม คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค เรานำผลการศึกษาเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกประเด็นหนึ่งคือการลบประวัติอาชญากรรม สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้รับการร้องเรียน จากบุคคลที่ไม่สมควรจะมีประวัติอาชญากรรม ยกตัวอย่างเช่น บุคคลที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง หรือหลายฟกรณี ทั้งที่ถูกหมายพ.ร.ก ฯ ปรากฎว่าหลังจากที่เรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้นส่วนของคดีความยกเลิกไปแล้ว เมื่อไปติดต่อส่วนราชการหรือต้องการเดินทางไปต่างประเทศ หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่ต้องตรวจสอบประวัติข้อมูลบุคคลปรากฏว่า ประสบปัญหาข้อมูลเก่ายังคงค้าง
ผมในฐานะกรรมาธิการเก่าในอดีตเราก็ได้ศึกษาเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นหนึ่งในนโยบายพรรคประชาชาติเราจะผลักดันทำยังไง กฎระเบียบที่มันติดขัด ที่เกิดความล่าช้า ในการลบประวัติอาชญากรรม
“สมัยนี้เราต้องการผลักดันให้มีการดำเนินการ ขจัดปัญหาอุปสรรคให้บุคคลที่บริสุทธิ์ หรือคนที่ศาลไม่เคยตัดสิน หรือที่เคยถูกหมายเรียก เราจะให้ลบฐานข้อมูลออกจากประวัติ อาชญากรรม “
โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนที่จะเดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เมื่อไปถึงตม.ก็มีหมายค้างหรือคดีหมายจับที่ยังคงค้าง ทำให้มีปัญหาและอุปสรรคหลายอย่าง ในการเดินทาง
ในฐานะพรรคประชาชาติมีนโยบายผลักดัน โดยส่งสารไปยัง รมว.ยุติธรรมให้เร่งหลายหน่วยงาน มาบูรณาการเกี่ยวกับ 1. มีกฎหมายอย่างไรระเบียบอย่างไรที่ต้องแก้ เราก็ผลักดันให้แก้ 2. เรื่องที่จะให้ลบประวัติบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ทั่วทั้งประเทศ ไม่เฉพาะสามจังหวัดภาคใต้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เป็นนโยบายหนึ่งที่จะผลักดันให้มีการดำเนินการลบประวัติอาชญากรรม เพื่อไม่ให้ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอีกต่อไป
เจ้าหน้าที่ หน่วยความมั่นคงในพื้นที่กล่าวว่า ข้อมูลในประวัติแบล็คลิสต์ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าใครบ้างหรือมีจำนวนเท่าไหร่ จนกว่าจะเจอปัญหาแล้วมาตรวจสอบและแก้ปัญหาไปเป็นรายๆ ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการไปแล้วจำนวนมากและได้ทำจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกต้องเจอปัญหาก่อนถึงจะสามารถรู้ได้ว่า มีชื่อในประวัติแล้วดำเนินการแก้ปัญหาให้
หนึ่งในผู้ถูกที่มีประวัติอาชญากรรม กล่าวว่า ตนเคยติดคดีความมั่นคงศาลสั่งยกฟ้อง ตั้งแต่ปี 2558 เมื่อวานจะไปส่งลูกเรียนต่างประเทศ พบว่ามีชื่อในประวัติอาชญากรรม เจ้าหน้าที่ตม.บอกว่ามีเอกสารอะไรเอาออกมาให้หมด จากนั้นเขาก็โทรไปถามตำรวจท้องที่ ว่าตนเป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัวด่วนไม่ ก็รู้สึกตกใจ ศักดิ์ศรีหายหมดเพราะ เขาจะเขียน กำกับไว้ที่หนังสือเดินทางเลยมันเหมือนประทับตราความผิดที่ไม่ได้ทำ ยังไม่นับเรื่องที่โดนกล่าวว่าเป็นผู้ร้ายโดยที่เราไม่ได้ทำอะไร ถูกจำคุกหลายปี เมื่อจบคดีจบ ยังมีตราบาปติดตัวอีก
ซึ่งทั้งสองประเด็นที่พรรคประชาชาติเตรียมผลักดันนี้ “การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ การลบประวัติอาชญากรรม” ถือเป็นงานหิน ที่โดนใจพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กันเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น