เมื่อวันที่ 25 ก.ย.66 เวลา 14.00 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรองดาโต๊ะ โจจี ซามูเอล (H.E. Datuk Jojie Samuel) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา โดยมี นายอับดุลฮาริม มินซาร์ สมาชิกวุฒิสภา กรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-มาเลเซีย , นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ ผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภา , นายธงชาติ รัตนวิชา ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายมีชัย ออสุวรรณ คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร และและนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ และกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลาด้วยความยินดี ความสัมพันธ์ไทยระหว่างไทยและมาเลเซียมีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนานและมีความแน่นแฟ้นในทุกระดับ ประธานรัฐสภาเคยพบปะกับประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ระหว่างการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 44 เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และเนื่องจากไทยเพิ่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ดังนั้นนายกรัฐมนตรีของไทยและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียน่าจะได้มีโอกาสพบปะกันในฐานะผู้นำคนใหม่ในเร็ว ๆ นี้ สำหรับความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา รัฐสภาของทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันขณะนี้ ไทยอยู่ในระหว่างการประชุมกลุ่มมิตรภาพฯไทย-มาเลเซียเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารฯ และเมื่อการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย จะได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในโอกาสต่อไป ด้านการศึกษา ไทยและมาเลเซียได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศึกษา ประธานรัฐสภาขอขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียที่ได้ดูแลนักศึกษาไทยที่ไปศึกษาที่มาเลเซีย รวมถึงแรงงานที่ไปทำงานในมาเลเซียเป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ในระดับรัฐสภาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ประธานรัฐสภาจึงกล่าวกับเอกอัครราชทูต ขอเชิญประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภามาเลเซียเดินทางเยือนไทย
โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ยังได้หารือเรื่องความเป็นไปได้ในการเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซียแห่งใหม่ ที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรัฐเคดะห์ของมาเลเซีย โดยกล่าวว่าการมีด่านพรมแดนเพิ่มขึ้นเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันแนบแน่น และจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งจะขอนัดหมายเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่มาเลเซียเดินทางไปชมสถานที่ที่มีความเหมาะสมที่จะสร้างด่านชายแดนแห่งใหม่ด้วย และยืนยันว่าจะผลักดันให้สำเร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย แสดงความขอบคุณประธานรัฐสภาที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และขอแสดงความยินดีกับประธานรัฐสภาที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้อีกครั้ง ไทยและมาเลเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างดีทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีโครงการส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และแสดงความเห็นด้วยกับการเพิ่มจุดผ่านแดนไทย-มาเลเซียอันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุนและมูลค่าทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดนระหว่างกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาสำหรับการเชิญประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภามาเลเซียเดินทางเยือน และจะแจ้งให้รัฐสภามาเลเซียทราบในโอกาสต่อไป พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญประธานรัฐสภาเดินทางเยือนมาเลเซียด้วยเช่นกัน และเห็นด้วยกับแนวคิดเปิดด่านชายแดนแห่งใหม่ ปัจจุบันบันมาเลเซียมีด่านชายแดน 9 แห่งรวมทั้งด่านทางทะเลที่ตำมะลัง และลังกาวีด้วย หากมีด่านชายแดนแห่งใหม่เกิดขึ้น จะมีมูลค่าการค้าชายแดนเพื่มขึ้น ทางการนำเข้าและส่งออกสินค้า ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน ซึ่งจะขอนำไปหารือในระดับรัฐบาลต่อไป
#วันมูหะมัดนอร์มะทา #ประธานสภาผู้แทนราษฎร #ประธานรัฐสภา #ด่านชายแดน #Thai #Malaysia
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น