วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พิษณุโลก นายทุนไม่รื้อ ป่าไม้รื้อเองก็ได้ หลังตรวจยึดปี 58 ไม่มีผู้กระทำความผิด


 พิษณุโลก นายทุนไม่รื้อ ป่าไม้รื้อเองก็ได้  หลังตรวจยึดปี 58 ไม่มีผู้กระทำความผิด สั่งให้ผู้กระทำผิดออกจากป่า รื้อถอนต้นยางพา ซึ่งมีผลผลิตน้ำยางพารา ออกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขากระยาง อ.นครไทย หากคดีสิ้นสุด ตำรวจหาผู้กระทำความผิดได้ อาจเจอถูกเรียกเก็บบิลย้อนหลัง ค่าจนท.รัฐร่วมกันตัดโค่นต้นยางพารา ประเมินค่าแรงรื้อถอนเกือบแสนบาท 


วันนี้ 25 สิงหาคม 66 นายวิทยา ณวิพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ส่งการให้นายวิชาญ ขันธ์แก้ว ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายสำรวย  ชมบุญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก 1, นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก 2, นายไชยวัฒน์ หล่อฐานนท์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิษณุโลก 1, นายวิวัฒน์ อินแปง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิษณุโลก 2, นายหน่อย ภู่น้อย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า พล.5 (ซุ้มขี้เหล็ก) ดำเนินการบังคับใช้ มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ดำเนินการรื้อถอนพืชผลอาสินและสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่รวมจำนวน 80-2-32 ไร่ บริเวณพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้มีนายสราวุฒิ เมนขุนทด ปลัดอำเภอนครไทย, ผู้ช่วยหัวหน้าสวนป่าน้ำตาก องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้, นายสัญญา พวงทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลบ้านแยง เข้าร่วมตัดโค่นต้นยางพารา รื้อถอน พืชผลอาสิน หลังจากเจ้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ได้ตรวจยึด ทำบันทึกคดีเมื่อปี 58 ส่งสภ.นครไทย แต่จนท.ตำรวจยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ ปรากฏว่า ระยะเวลาที่กำหนดได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้กระทำไม่ดำเนินการรื้อถอน  ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้รื้อถอนพืชผลอาสิน 

ตามคำสั่งที่ 378/2562 ให้ผู้กระทำผิดออกจากป่าสงวนแห่งชาติ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้างและพืชผลอาสินออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขากระยาง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สั่ง ณ วันที่ 9 ตุลาคม2562  สั่งให้ผู้กระทำผิดผู้บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ดำเนินการรื้อถอนต้นยางพารา โดยทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพโล่งเตียน ปราศจากสิ่งปลูกสร้าง และพืชผลอาสิน เพื่อรอการฟื้นฟูให้กลับสภาพเป็นป่าต่อไป  

ที่ผ่านมาให้รื้อถอนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 62 และมีคำสั่งให้ผู้กระทำผิดออกจากป่าสงวนแห่งชาติ หากผู้กระทำผิด ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด  จะต้องรับผิดชอบชดใช้ หรือออกค่าใช้จ่ายเพื่อการนั้นทั้งหมด พร้อมเงินเพิ่มอีกร้อยละ 25 ต่อปี ของค่าใช้จ่าย และมีความผิดตามพระราชบัญญัติ  ป่าสงวนแห่งชาติ 2507  มาตรา 39/1 ฐานขัดคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งสั่งตามมาตรา 25(1) หรือ (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งจำทั้งปรับและยังต้องระวางโทษปรับอีกไม่เกิน วันละ 5,000 บาท 

นายวิชาญ ขันธ์แก้ว ผอ.ส่วนป้องกันฯ สจป.4สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า แปลงตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่า 23 มิถุนายน 2558 ป่าเขากระยาง พื้นตรวจยึด 693-2-63 ไร่ มีผู้มาแสดงสิทธิ ครอบเจ้าของพื้นที่  20 ราย รวม 460-3-58ไร่ 

ขณะที่ยังมีแปลงปลูก ยางพาราข้างเคียงอีกจำนวน 5 แปลงพื้นที่รวม 80-2-32 ไร่ ไม่มีผู้ใดมาแสดงตัว ตนในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน สจป.4 พิษณุโลก จึงเสนอ นายอำเภอนครไทย ดำเนินการบังคับให้ ม.25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ รื้อถอนตัดฟันต้นยางพารา ในพื้น 5 แปลงดังกล่าว ตามอำสั่งอำเภอนครไทยพร้อมได้รับงบประมาณจากกรมป่าไม้ ให้รื้อถอน ตัดต้นยางพารา 

หากคดีสิ้นสุด ตำรวจหาผู้กระทำความผิดได้ ผู้ต้องหาอาจเจอถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายย้อนหลัง เป็นค่าดำเนินการที่จนท.รัฐร่วมกันตัดโค่นต้นยางพารา ประเมินค่าแรงรื้อถอนเบื้องต้นเกือบแสนบาท

/ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น