คณะผู้บริหารเมืองพัทยาลงพื้นที่ถนนเทพประสิทธิ์ ติดตามโครงการก่อสร้าง เชื่อแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนกันยายนนี้ นายกพัทยาย้ำความปลอดภัยต้องมาก่อน
จากกรณีชาวบ้านเมืองพัทยารวบรวมรายชื่อเพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างเกาะกลางถนนเทพประสิทธิ์ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการใช้ถนน โดยร้องขอให้มีการพิจารณาเพิ่มจุดยูเทิร์นกลับรถ ก่อนนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา จะชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานตามความต้องการของประชาชนเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจร่วมกันแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 30 มิ.ย.66 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหารเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องและคณะสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ถนนเทพประสิทธิ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโครงการก่อสร้างต่างๆ ตลอดถนนเทพประสิทธิ์ การการปรับแก้เกาะกลางถนนเพื่อเพิ่มจุดยูเทิร์นกลับรถ การปูถนน และการติดตั้งเสาไฟฟ้า
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลายภาคส่วนเกี่ยวกับประเด็นการก่อสร้างจุดยูเทิร์นกลับรถถนนเทพประสิทธิ์ ซึ่งจากเดิมกำหนดไว้ 4 จุด และเป็นการกลับรถแค่ฝั่งเดียวจุดละ 7 เมตร บนถนนเส้นนี้ที่มีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร แต่หลังจากได้รับเรื่องจากประชาชน จึงได้มีข้อสรุปร่วมกันกับผู้บริหาร สมาชิกสภาเมืองพัทยา และประธานชุมชน
โดยมีมติให้เปิดจุดยูเทิร์นกลับรถเพิ่มเติมเป็น 7 จุด จากเดิม 4 จุดย่อยที่กลับรถได้ทางเดียว และแยกกอไผ่ที่เป็นแยกไฟเขียวไฟแดง ก็จะเป็น 3 จุดกลับรถย่อยที่มีการเพิ่มระยะจาก 7 เมตร เป็น 10 เมตร โดยที่แยกกอไผ่ยังคงเดิมอยู่ แต่จะเพิ่มจุดกลับรถทางเข้าถนนสุขุมวิทและถนนทัพพระยา เปิด 2 จุดๆ ละ 25 เมตร คือ บริเวณทางเข้าแยกซอยที่ดินและทางเข้าหน้าโคลอสเซียม พัทยา ซึ่งจะช่วยสามารถแบ่งเบาการจราจรบริเวณนี้ไปได้เนื่องด้วยเป็นจุดที่มีรถทัวร์นักท่องเที่ยวสัญจรกันหนาแน่น
นายกเมืองพัทยา เผยด้วยว่า หากดำเนินการเรื่องดังกล่าวมีความคืบหน้าเรื่องเกาะกลางถนนเทพประสิทธิ์ก็จะเสร็จสิ้น โดยเจ้าหน้าที่ผู้ทำงานรายงานว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2566 นี้ หรือเร็วกว่า และในส่วนของการปูถนนที่มีปัญหาฝ่าท่อเกยขึ้นมาบนพื้นถนน 7 ซม.เพื่อรอปูแอสฟัลท์อีก 2 ชั้น เหลือระยะทางเพียง 800 เมตร ก็จะเสร็จสิ้นเช่นกัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ โดยจะดำเนินการรควบคู่กันพร้อมกับการปูทางเท้าทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งงานทั้งหมดต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมาก่อน
นอกจากนี้ในส่วนของการติดตั้งเสาไฟส่องสว่างที่จะติดตั้งบริเวณเกาะกลางถนนนั้นมีทั้งหมด 85 ต้น ทำฐานเสาไฟฟ้าไปแล้ว 47 ต้น ซึ่งต้องรอมติเรื่องการขยับปรับเปลี่ยนเกาะกลางถนน ซึ่งจะดำเนินการพร้อมกันไปด้วย เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นไฟส่องสว่างเกาะกลางถนน แต่ในอนาคตมีแผนจะร่วมกับ กฟภ. เมื่อมีงบประมาณเพียงพอจะดำเนินการพัฒนาในเรื่องสายไฟลงดินต่อไป
/เก่ง ณ สงขลา รายงาน/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น