พิษณุโลก แฟนคลับ "ลุงป้อม" ยังเหนียวแน่น ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่ม "ท่านประวิตรมาแล้ว มีเราไม่มีแล้ง"
“ลุงป้อม”เดินตัวปลิว แฟนคลับยังเหนี่ยวแน่นร่วม 5 พันคนที่เวที-พรหมพิราม บอกมาหลายครั้งแล้ว ทำเรื่องน้ำ ที่ดิน แก้หนี้นอกระบบ ขอฝากผู้สมัครพลังประชารัฐทั้ง 5 เขต ขณะที่”สันติ พร้อมพัฒน์”เลขาฯ สุ่ม หาเสียงเวทีรอบอำเภอ 2 แห่งก่อนหน้า
วันนี้ 9 พฤษภาคม 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางด้วยเครื่องบิน MJets ถึงสนามบินพิษณุโลก มุ่งหน้ากราบพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ โดยใช้เวลาไม่นานนัก จึงไม่มีมวลชนต้อนรับมากนัก จากนั้นมุ่งหน้า ลานเอนกประสงค์หน้าธนาคารออมสิน เทศบาลตำบลพรหมพิราม อ. พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เย็นวานนี้( 8 พ.ค.66 ) โดย”บิ๊กป้อม”นั่งรถคันเดียวกับ”บิ๊กตู่” คือรถยนต์อัลพาร์ต สีดำ ทะเบียน 1 ขศ 87 กทม.ซึ่งหลายคนทราบดี เป็นที่ฮือฮาคราวแล้ว เพราะเลขท้ายทะเบียน 87 กทม.ตรงกับเลขท้าย 3 ตัวพอดี
“บิ๊กป้อม”ก้าวลง รถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ท่ามกลางเสียงเชียร์ว่า ท่านประวิตร มาแล้วครับ มีเราไม่มีแล้ง จากนั้นเดินตัวปลิวขึ้นเวทีปราศรัยทันที โดยมีชาวพรหมพิรามเดินทางมาร่วมรับฟังเกือบ 5 พันคน ท่ามกลางตบมือเสียงสนั่น มีแฟนคลับหน้าเวทีแห่มอบพวงมาลัยล้นหลาม จนลูกพรรคพลังประชารัฐ ต้องยื่นมือช่วย“บิ๊กป้อม”รับดอกดาวเรืองมาคล้องคอจำนวนมาก ถือว่า เป็นเวทีเกือบสุดท้ายใกล้เวลาเลือกตั้งเข้าไปทุกขณะ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ผมมาพิษณุโลกหลายครั้งแล้ว ทำเรื่องน้ำ ที่ดิน แก้หนี้นอกระบบ ถามย้ำว่า จะให้เลือกเบอร์อะไร ท่ามกลางเสียง ชาวบ้านพรหมพิรามว่า เบอร์ 37 จึงขอให้ชาวพิษณุโลกเลือกทั้ง 5 เขต เพราะได้คัดเลือกมาอย่างดีแล้ว ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ
ช่วงเที่ยงวานนี้ คณะของนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคประชารัฐและคณะออกเดินทางจาก จ.เพชรบูรณ์ มุ่งหน้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อเปิดเวทีปราศรัย จุดที่ 1 เพื่อช่วยหาเสียงนาย เอกพงษ์ เบอร์ 1 ในเขตเลือกตั้งที่ 5 บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หนองปู่ เทศบาลตำบลนครไทย อ. นครไทย
จากนั้น คณะของนายสันติฯ เดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยเพื่อช่วยเบอร์ 7 นายหัสนัยน์ สอนสิทธิ์ ผู้สมัครพลังประชารัฐเขต 3 โดยมีประชาชนกว่า 2,500-3,000 คนรับฟัง จนแน่นลานวัดสุพรรณพนมทอง ต.พันชาลี อ. วังทอง
นายหัสนัยน์ สอนสิทธิ์ พลังประชารัฐ เบอร์ 7 บอกเพียงว่า คนที่ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง ต้องการบัตรประชารัฐ ผมจึงต้องเลือกพรรคให้ถูก เนื่องจากพรรคลุงป้อม ต้องการดูแลประชาชนด้วยบัตรประชารัฐ 700 บาท และมีนโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงวัยอายุ 60 ปีรับเบี้ยยังชีพ3,000บาท และอายุ70ปีรับเบี้ยยังชีพ 4พันและ5 พันบาทสำหรับอายุ80ปี
จากนั้นนายสันติ พร้อมพัฒน์ เดินทางไปสมทบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเปิดเวที เขตเลือกตั้งที่ 2 เพื่อช่วย นาย ศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ เบอร์ 4 ที่ลานเอนกประสงค์ เทศบาลตำบลพรหมพิราม อ. พรหมพิรามโดยมีผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐทั้ง 5 เขตและทีมงานหาเสียงชุดใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐอาทิ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคฯ, รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ, นายวราเทพ รัตนากร คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคฯ ฯลฯ
นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ เบอร์ 4 บอกว่า คนที่พรหมพิราม ต้องการน้ำ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ทำนา ตนจึงเลือกพรรคลุงป้อม มาแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ตนสงสัยว่า ทำไม ! โครงการยม-น่าน เกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งๆที่ อ.พรหมพิราม มีแม่น้ำน่านผ่าน ทุกปี ชาวพรหมพิรามต้องเดินทางประท้วงเรียกร้องขอน้ำทำนา
/ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น