วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่สั่งเร่งค้นหาช่วยเหลือทหารพรานจมน้ำสูญหาย 2 นาย ขณะเดินเท้าลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยพื้นที่

พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ ติดตามช่วยเหลือทหารพราน 2 นายที่ผลัดจมน้ำ ขณะลาดตระเวณดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ หลังจากเมื่อช่วงเวลา 11.00 น.วันนี้ ( 30 เม.ย. 67) รับแจ้งจาก กองร้อยทหารพรานที่ 4608 ว่า ขณะที่ ร.อ. จุลพงษ์ ทัพมีชัย ผบ.ร้อย.ทพ.4608 นำชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ รวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ตามเส้นทางธรรมชาติ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ ขณะกำลังเดินข้ามแม่น้ำสายบุรี ในพื้นที่ บ.ดือแย ม.4 ต.สาวอ อ.รือเสาะ อส.ทพ.สุไลมาน  ดีมะดี และ ร.อ.จุลพงษ์ฯ ได้เข้าไปในบริเวณน้ำลึก และได้ถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป 
เบื้องต้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งหน่วยเร่งทำการค้นหา ช่วยเหลือกำลังพลทั้ง 2 นาย และประสานขอรับสนับสนุนชุดประดาน้ำ/มนุษย์กบ ลงค้นหาจนกว่าจะเจอ พร้อมสั่งการดูแลพื้นที่โดยรอบเพื่อรักษาความปลอดภัยชุดค้นหา และชาวบ้านที่ให้การช่วยเหลือ ขณะนี้ ยังอยู่ในระหว่างค้นหา
#ขอให้กำลังพลทั้ง2นายปลอดภัย

พิพัฒน์สั่งดูแลสิทธิประโยชน์ลูกจ้าง Cars24 หลังบริษัทปิดกิจการ พร้อมกำชับตรวจสอบการจ่ายค่าจ้าง-แนะนำงานใหม่

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณี บริษัท คาร์ส24 กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Cars24 ปิดกิจการ ส่งผลให้พนักงานตกงานเป็นจำนวนมากนั้น ว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมเร่งเข้าไปชี้แจงสิทธิประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่และผู้ประกันตนของบริษัททราบ โดยเฉพาะเงินชดเชยกรณีว่างงานตามมาตรา 33 ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า บริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่อาคารทรูดิจิตอลพาร์ค ถ.สุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด มีผู้ประกันตนทั้งสิ้น 313 คน และมีการจ่ายเงินสมทบตามปกติ (ไม่มีการค้างชำระ) โดยสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 อยู่ระหว่างติดต่อประสานงานกับทางบริษัทเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อไป

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยังได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานไปตรวจสอบให้คำแนะนำการปฏิบัติที่ถูกต้องแก่นายจ้างเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เนื่องจากนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายตามอายุงานให้แก่ลูกจ้าง รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น เช่น ค่าจ้างค้างจ่าย ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้าง เป็นต้น รวมทั้งมอบหมายให้กรมการจัดหางานลงไปให้คำแนะนำเรื่องตำแหน่งงานและการหางานใหม่ให้แก่พนักงานลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างเหล่านี้โดยเร่งด่วนด้วย

“ท่านพิพัฒน์มีความห่วงใยทั้งพนักงานลูกจ้างและนายจ้าง Cars24 ทุกคน โดยนอกจากจะกำชับให้หน่วยงานของกระทรวงแรงงานเข้าไปดูแลแล้ว ยังฝากให้กำลังใจและขอให้ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมจากการทำงานไปต่อยอดใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป ทั้งนี้ หากต้องการขอรับคำปรึกษาแนะนำสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานของกระทรวงแรงงานในพื้นที่ทุกแห่ง หรือโทร.สายด่วน 1506” นายภูมิพัฒน์ กล่าว

ปิดฉาก เร้าใจ สุดมัน ศึกวอลเลย์บอลชายหาด "นารายณ์คัพ" ครั้งที่ 1

นางดวงฤดี จิตร์จำนงค์(คนกลาง) รองนายกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่า เป็นประธาน  พิธีปิด การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด นารายณ์คัพ ชิงแชมป์ภาคใต้  ประจำปี 2567  สนามวอลเลย์บอลชายหาด ดร. ชาตา บุญสูง สวนสาธารณะทุ่งพระโพธิ์ อำเภอ ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ชาย  หญิง
รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชาย หญิง
รุ่นประชาชน ชาย หญิง
(เฉพาะ 14 จังหวัดภาคใต้) ชิงเงินรางวัล 56,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล รับรางวัลกันถ้วนหน้า เมื่อวันก่อน

ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ให้กำลังใจ ครอบครัว อส.บันนังสตา - ทหารพราน ธารโต จ.ยะลา ที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบ ยืนยัน!! พร้อมจะช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

วันนี้ (30 เมษายน 2567) ที่ว่าการอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กรมการปกครอง) ศอ.บต. พร้อมเจ้าหน้าที่เยียวยา เยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวของมญ.มะดาโอะ วายีเกา อาสาสมัครรักษาดินแดนซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลอบยิงเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนชุดคุ้มครองตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขณะปฏิบัติภารกิจด้านการข่าวและปฏิบัติงานกิจกรรมมวลชนในพื้นที่เหตุเกิดบริเวณถนนบ้านบียอหมู่ที่ 4 และในเวลาไล่เลี่ยกันได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์หุ้มเกราะเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ชุดคุ้มครองตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางบริเวณ หมู่ที่ ๒ บ้านบาเจาะ ตำบลบาเจาะ ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 ราย เป็นเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน 9 ราย และประชาชนจำนวน 2 ราย ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว 
จากนั้นผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมเจ้าหน้าที่เยียวยาได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภออยะหา จังหวัดยะลา เพื่อพูดคุยให้กำลังให้กับครอบครัวของอส.ทพ.รุสลี ดาเล็ง อายุ 43 ปี สังกัด ร้อย ทพ.4716 ฉก.ทพ.47 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ลอบยิงขณะไปร่วมพิธีทางศาสนา เยี่ยมที่หลุมฝังศพพ่อหรือรายอแน โดยกำลังอ่านอัลกุรอาน ณ กุโบร์บ้านจาเราะแป หมู่ที่ 3 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา

ในการนี้นายรอมดอน หะยีอาแว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้นำความห่วงใยจากเลขาธิการ ศอ.บต. และขอแสดงความความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ครอบครัว อีกทั้งยังได้ขอเป็นกำลังใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือ ศอ.บต. มีความยินดีและพร้อมจะดูแลในทุกมิติอย่างดีที่สุด 
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวดและดูแลตัวเองใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ความสูญเสียซ้ำอีก
อย่างไรก็ตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยานั้น ศอ.บต. โดยจังหวัดยะลา ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับทั้ง 2 ครอบครัว ที่เสียชีวิต รายละ 500,000 บาท และผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นรายละ 10,000 บาท ที่ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ยังไม่ได้รับ อยู่ระหว่างการออกเอกสารรับรองแพทย์ ทั้งนี้ การได้รับการช่วยเหลือเยียวยาสิทธิประโยชน์อื่นๆ เป็นไปตามหลักเกณฑ์...

กองทุนฟื้นฟูฯ เปิดโครงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมคืนโฉนดให้สมาชิกจำนวน 18 ราย

วันที่ 30 เมษายน 2567 ที่โรงแรมประจวบแกรนด์  อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  นายสุรชัย เบ้าจรรยา ประธานกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
และด้านอื่นๆในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกับกรมบัญชีกลาง
โดยมี นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในนามผู้รับผิดชอบดำเนินงานโครงการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรและด้านอื่นๆ ในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลงกับ กรมบัญชีกลาง พร้อม คณะผู้บริหาร ร่วมกิจกรรมโครงการดังกล่าว
สำหรับแนวทางในการปฏิบัติงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแก่ผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ การดำเนินงานโครงการในครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จำนวน 365 คน ประกอบด้วย คณะทำงานตรวจสอบ ติดตาม สนับสนุน ประเมินผล แก้ไข ปรับปรุงและดำเนินการแผนหรือโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟู
และพัฒนาเกษตรกร ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 2 หัวหน้าสำนักงานสาขา
จังหวัดภาคกลาง ทั้ง 26 จังหวัด เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตัวแทน
สมาชิกองค์กรเกษตรกรที่ขอรับการสนับสนุนแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
รวมถึงพนักงานและเจ้าหน้าที่ของสำนักฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานสาขาจังหวัด
ภาคกลาง และสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 2
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดำเนินการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน ด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและด้านอื่นๆ ในภารกิจของสำนักงาน ตามบันทึกข้อตกลง
กับกรมบัญซี่กลาง ให้สามารถบรรลุเป้าหมายกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่กำหนด
รวมถึงเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ในการติดตามการดำเนินงานตามภารกิจ
สำนักงาน และเสริมสร้างพัฒนาทักษะการดำเนินงาน สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพนักงาน
และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรร่วมกัน รวมถึงการตรวจสอบ ติดตาม
สนับสนุน ประเมินผล แก้ไข ปรับปรุงและดำเนินการแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และสอดคล้องกับแผนและ
ยุทธศาสตร์ด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานกองทุนฯ มีองค์กรเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกับ กองทุนฯ แล้ว จำนวน 56,107 องค์กร มีเกษตรกรสมาชิก จำนวน 5,719,220 ราย นอกจากนั้น สำนักงานกองทุนฯ ยังให้การสนับสนุนโครงการและงบประมาณเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแก่องค์กรเกษตรกร ตั้งแต่ปี 2549-2566 แล้ว จำนวน 12,311 โครงการ เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 1,503,432,480 บาท โดยสนับสนุนเงินอุดหนุน เพื่อการพัฒนาความเข้มแข็งองค์กรเกษตรกร จำนวน 9,558 องค์กร/โครงการ เป็นเงิน 407,857,364 บาท และให้เงินกู้ยืมเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพของเกษตรกร จำนวน 2,753 โครงการ เป็นเงิน 1,095,575,116 บาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 มีองค์กรเกษตรกรที่แสดงความประสงค์ขอรับการสนับสนุนโครงการเงินกู้ยืมไว้กับสำนักงานสาขาทั้ง 77 จังหวัด รวมจำนวน 2,080 โครงการ เป็นเงิน 12,063,454,468 บาท มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 53,110 ราย โดยในเขตภาคกลาง
มีจำนวน 172 แผน/โครงการ วงเงิน 1,603,710,595 บาท มีเกษตรกรเข้าร่วม 5,752 คน
นอกจากนี้  นายสุรชัย เบ้าจรรยา ประธานกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อม คณะผู้บริหาร  ได้ร่วมกันมอบโฉนดที่ดินคืนให้กับเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูจำนวน 18 ราย  จำนวน 26 แปลง เนื้อที่รวม 212 ไร่ 1 งาน 68.3 ตารางวา 
////////////////
ข่าว   ณัฐธภพ พันสาย  /  จ.ประจวบคีรีขันธ์   0649646443

พิษณุโลก นิมนต์หลวงพ่อวัดดัง“เจ้าตำรับเจิมมือยันต์นะมะมนต์” จัดงานบุญใหญ่รับวันแรงงาน 1 พ.ค.ตอบแทนลูกค้า"จ้าวช้างไวไฟ เกษตรพัฒนา"เปิดดวงชะตามหาเศรษฐี สายมูแห่เจิมมือหนุนดวงแน่น

 วันนี้ 30 เมษายน 2567  "จ้าวช้างไวไฟ บริษัทเกษตรพัฒนา" จัดพิธีมหามงคล "เจิมมนต์นางพญา" ขึ้น ณ ลานกิจกรรมจ้าวช้างไวไฟ ของบริษัท เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นสิริมงคลและเปิดดวงชะตามหาเศรษฐีให้กับลูกค้าครอบครัวจ้าวช้างฯ โดยได้นิมนต์ หลวงพ่อสำลี หรือพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพศรัทธา โด่งดังเรื่องการเจิมมือ
"ยันต์นะมะมนต์”หนุนดวง การงาน ทำมาค้าขึ้น  ซึ่งทุกครั้ง จะต้องไปที่วัดราชบูรณะเท่านั้น แต่คราวนี้กรณีพิเศษเฉพาะลูกค้าจ้าวช้างไวไฟเท่านั้น พร้อมแจกวัตถุมงคลให้กับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานบุญใหญ่อีกด้วยรับวันแรงงาน 1 พ.ค.67 นี้
ทั้งนี้ เกษตรพัฒนา เป็นโรงงานผลิตและพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรแนวหน้าของประเทศไทย ดำเนินธุรกิจนานกว่า 49 ปี ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2518 เริ่มแรกที่จ.ฉะเชิงเทรา และขยายกิจการมาเป็นบริษัท เกษตรพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ที่จังหวัดพิษณุโลกปี พ.ศ. 2523 เพื่อผลิตและจำหน่ายเครื่องเกี่ยวนวดข้าว, เครื่องเกี่ยวนวดข้าวโพด, เครื่องเกี่ยวนวดข้าวโพดชนิดฝัก, เครื่องนวดข้าว, รถพรวนดินส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ถึง 10 ประเทศคือ เกาหลีใต้ ,มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไอวอรี่ โคสต์, ไนจีเรีย, ศรีลังกา, บังคลาเทศ, กัมพูชา, เมียนมาร์, ลาว, ฯลฯ มีบริษัทในเครือกว่า 6 บริษัท มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการไม่หยุดยั้งด้วยนวัตกรรมจักรกลการเกษตรตอบสนองความต้องการของเกษตรกร สามารถติดตามได้ที่เฟสบุ๊ค"รถเกี่ยวข้าวจ้าวช้างไวไฟ เกษตรพัฒนา"
//ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว//

อุตรดิตถ์ จนท.พิทักษ์ป่ารวบมือเผา !! หนุ่มวัย37 ปี เดินเข้าป่าจุดไฟเพื่อล่าสัตว์ เขต อช.ลำน้ำน่าน เจอดำเนินคดีอ่วม ของกลางมัด

วันนี้ (30 เม.ย. 2567) นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11  รับแจ้งจากนายคมสันต์ ใจยะสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ว่าสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าป่าอนุรักษ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ป่า พร้อมไฟแช็กสำหรับก่อให้เกิดไฟ ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์ 
สืบเนื่องจาก 29 เมษายน 2567 เวลา 11.48 น. นายคมสันต์ ใจยะสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามฯ ประจำอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลน.3 (กิ่วเคียน) ออกลาดตระเวนและป้องปรามดูแลพื้นที่ ตามมาตรการการยกระดับการควบคุมป้องกันไฟป่า และตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการป้องกันปราบปรามการกระทำผิด โดยให้ดำเนินคดีกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่าและเข้าพื้นที่ป่าเพื่อล่าสัตว์ ตามกฎหมายอย่างจริงจังและเฉียบขาด
ขณะลาดตระเวนเข้าดับไฟในป่า บริเวณห้วยปุ พบจุดไฟเกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง  เจ้าหน้าที่ได้พบกลุ่มควันลอยขึ้นมาในแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติ สังเกตเห็นบุคคลต้องสงสัย เพศชาย วิ่งหลบหนีออกมาจากจุดที่เกิดไฟ จึงเข้าสกัดและทำการจับกุม 
สอบสวนทราบชื่อภายหลัง คือ นายธเนศ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี บ้านท่าช้าง หมู่ 13 ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ตรวจค้นพบของกลาง 6 รายการ  ได้แก่
1) ไฟแซ็คสีเขียว จำนวน 1 อัน
2) ปืนแก๊ป ขนาดลำกล้อง 41 นิ้ว ไม่มีหมายเลขทะเบียน(เครื่องกระสุนบรรจุในรังเพลิง) จำนวน 1 กระบอก
3) เครื่องกระสุนดิน จำนวน 1 ชุด
4) ปืนลูกซองยาวเดี่ยว ขนาดความยาวลำกล้อง 31 นิ้ว ไม่มีทะเบียน(มีกระสุนในรังเพลิง) จำนวน 1 กระบอก
5) กระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 36 นัด
6) ลูกบอลไล่นก ถุงพลาสติกมีการเปิดไปใช้บางส่วนแล้ว จำนวน 85 ลูก
เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าประสานชุดสืบสวน สภ.ท่าปลาร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าปลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างถึงที่สุด ในฐานความผิด ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 
-มาตรา19 (7) ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต 
มาตรา19 (8) ฐานยิงปืน ทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาต 
-มาตรา 20 บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติต้องปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด 
-มาตรา 21 ฐานบุคคลใดนำหรือปล่อยสัตว์เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 
และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 
-มาตรา 7 ห้ามผู้ใด ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
-มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ 
-มาตรา 8 ทวิและมาตรา 371 ห้ามมิให้ผู้ใดพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันควร โดยไม่ได้รับอนุญาต 
//ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว//

อบจ.พิษณุโลก จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการประสานและบูรณาการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ.2566-2570) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดพิษณุโลก

วันที่ 30 เมษายน 2567 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการประสานและบูรณาการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ.2566-2570) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 30 เมษายน -2 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมไพลิน อำเภอเมืองพิษณุโลก จัดโดยกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก มี นายวิโรจน์ มะลิซ้อน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ 
ภายในพิธีได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเปิดโครงการ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจแนวทางการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา กระบวนการและขั้นตอนในการประสานแผนพัฒนาการศึกษา และได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาทบทวนแผนพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรัฐบาล สำหรับนำเสนอให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนำไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของจังหวัดพิษณุโลกต่อไป 
โดยมีผู้เข้าร่วมการโครงการ ประกอบด้วย คณะกรรมการประสานแผนพัฒนาการศึกษาฯ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาของจังหวัดพิษณุโลก และแผนพัฒนาการศึกษาของสำนัก/กองการศึกษา สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 103 แห่ง คณะกรรมการประสานงานวิชาการการจัดการศึกษาท้องถิ่น ระดับจังหวัด รวมทั้งสิ้นจำนวน 296 คน และได้รับเกียรติจากคณะวิทยากร ประกอบด้วย ดร.สุวรรณ พิณตานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตวิทยากรแผนพัฒนาการศึกษาของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, นางสาวธัญญา หล้าหาญ ผู้อำนวยการกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลเชียงทอง, นางสาวธัณยปัถย์ มาลาธเนศวร์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร และ ว่าที่ร้อยตรี ณฎฐดลป์ แสงนาค นักวิชาการศึกษาชำนาญการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ.

เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ น้ำหนาว ฮีทสโตรก หมดสติ ขณะปฏิบัติงานดับไฟป่า หามลงจากเขาส่งโรงพยาบาล ล่าสุดอาการดีขึ้น!!

        วันนี้ 30 เมษายน 2567 นายสมเกียรติ  กาติ๊บ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานดับไฟป่าว่า มีเจ้าหน้าที่เป็นลมหมดสติขณะเข้าดับไฟป่า ชื่อนายสุริยนต์ คันศรี พนักงานราชการ ตำแหน่งคนงาน อายุ 53 ปี โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเข้าป่าเพื่อตรวจสอบพื้นที่จุดความร้อน (Hotspot) และดับไฟป่าตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2567 บริเวณห้วยทับโคก ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าน้ำหนาว กำลังพลจำนวน 20 นายระหว่างเดินทางได้หยุดพักค้างแรม
ต่อมาวันที่ 28 เมษายน 2567 คณะเจ้าหน้าที่ออกเดินทางต่อจนถึงพื้นที่เป้าหมายบริเวณห้วยทับโคก ในเวลา 14.00 น.โดยเข้าทำการดับไฟป่า แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับมีกลุ่มควันจำนวนมาก จึงทำให้นายสุริยนต์ คันศรี เกิดมีอาการหน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน และเป็นลมหมดสติ (อาการฮีทสโตรก) เพื่อนร่วมทีมจึงได้นำตัวออกจากพื้นที่ไฟไหม้ เพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หลังจากผู้ป่วยได้สติ จึงได้แบ่งกำลังพลนำตัวออกจากพื้นที่เพื่อหาจุดที่มีสัญญาณวิทยุสื่อสาร ติดต่อขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยสภาพพื้นที่เป็นภูเขามีความลาดชัน ทำให้การเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้เกิดความล่าช้า คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการพักแรมบริเวณลำห้วยหนองข้าวหลาม 
ต่อมาเช้าวันที่ 29 เมษายน 2567 คณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยจนมาถึงบริเวณลานนกแต้ ผู้ป่วยมีอาการทรุดลง ร่างกายอ่อนเพลียมาก ซึ่งจุดดังกล่าวมีสัญญาณมือถือ จึงได้ประสานหัวหน้าอุทยานฯ น้ำหนาว ส่งรถกู้ชีพกู้ภัยประจำอุทยานฯ มารอรับตัวผู้ป่วย ณ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ นน.01 (ถ้ำห้วยประหลาด)
โดยหัวหน้าอุทยานฯ น้ำหนาว ได้ประสานประชาชนประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่า นำรถจักรยานยนต์ เข้ารับตัวผู้ป่วยให้ออกจากพื้นที่โดยเร็ว พร้อมนำตัวผู้ป่วยมาส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการตรวจร่างกาย แพทย์ได้ทำการรักษาโดยการฉีดยา และเจาะเลือด และให้พักอยู่ในห้องฉุกเฉินเพื่อรอฟังผลเลือด 
ล่าสุดเช้านี้ (30 เม.ย.67) หัวหน้าอุทยานฯ น้ำหนาว ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่อาการดีขึ้นตามลำดับ และอยู่ในการดูแลของแพทย์
//ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว//